แชร์

ปุ๋ยอินทรีย์

อัพเดทล่าสุด: 27 มี.ค. 2024
231 ผู้เข้าชม

มูลวัวนมอินทรีย์+Organic ประเทศไทย

ทางบริษัทปุ๋ยดีดีและบริษัทเพิ่มทรัพย์เกษตรภัณฑ์ได้ร่วมกับประทีปฟาร์ม

ได้ร่วมกันผลิตปุ๋ยอินทรีย์มูลวัวนมอัดเม็ดคุณภาพที่ดีที่สุดของประเทศไทยขึ้น เนื่องจากทางประทีปฟาร์มเป็นฟาร์มที่มีมาตรฐานที่ดีระดับประเทศ ผลิตน้ำนมวัวได้กว่าวันล่ะ 10 ตัน มีจำนวนวัวนมกว่า 1,000 ตัว จึงมีปริมาณของมูลวัวประมาณ 10 ตันต่อวัน เพื่อให้เกษตรกรได้มีปุ๋ยอินทรีย์ที่ดี ราคาเหมาะสมใช้ในการทำการเกษตรเพื่อการลดต้นทุน ปรับปรุงดินและมีผลผลิตที่ดี

         จุดแข็งของปุ๋ยมูลวัวนมอัดเม็ดของเรา คือ มูลโคนมสะอาดปราศจากเมล็ดวัชพืช ไม่มีโซดาไฟ ฉีดพ่นด้วยหมักด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์ EM น้ำนมวัว มูลค้างคาว ฮิวมิคผง และผสมโดโลไมท์เข้าไปเร่งกระบวนการย่อยสลายและเพิ่มธาตุอาหารที่พืชต้องการ หมักเป็นเวลา 2 เดือน แล้วจึงนำมาเข้าเครื่องอัดเม็ด ต่อด้วยการฉีดเชื้อราไตรโคเดอร์มาก่อนบรรจุใส่กระสอบขนาด 3 และ 30 กิโลกรัม พร้อมส่งตรงถึงมือเกษตรกรและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

         โดยมูลวัวนมอัดเม็ดของเรามีคุณสมบัติดังนี้

1.ไม่มีเมล็ดวัชพืช

-เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ของฟาร์ม อาทิเช่น หัวอาหาร รำข้าว กากมันสำปะหลัง ข้าวโพดบด ฟางข้าวและเนเปียหมัก 2 เดือน จึงเป็นมูลวัวที่ปราศจากเมล็ดวัชพืช

2.ไม่มีโซดาไฟ

-ฟาร์มวัวที่ไม่มีระบบน้ำกำจัดมูลวัว ส่วนใหญ่จะใช้โซดาไฟในการทำความสะอาดคอกวัว ซึ่งโซดาไฟจะมีค่าความเป็นกรดสูง เพื่อขจัดคราบสกปรกที่พื้นคอกวัว หากนำมูลวัวที่มีโซดาไฟไปใช้ในการเกษตร โซดาไฟจะมีผลกระทบต่อรากพืชและอาจทำให้พืชตายได้ ฟาร์มของเราเป็นฟาร์มมาตรฐานระดับประเทศ ที่มีระบบกำจัดมูลวัวโดยการใช้น้ำชำระล้างคอกวัว โดยไม่ใช้โซดาไฟในการทำความสะอาด และไหลเข้าบ่อพักก่อนทำการแยกกากและน้ำของมูลวัวแล้วจึงนำมาเข้าสู่กระบวรการหมักต่อไป

3.หมักด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์ EM+น้ำนมวัว

-น้ำนมวัวที่บาซิลลัสย่อยสลายจะมีธาตุอาหารและกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งจุลินทรีย์บาซิลลัสจะไปสร้างธาตุอาหารฟอสฟอรัส และธาตุอาหารรองต่างๆ ในน้ำนมมีครบเกือบทุกตัว อาทิเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และธาตุเหล็ก ฯลฯ (ตามใบวิเคราะห์ธาตุ) ในส่วนธาตุอาหารที่ขาดก็ให้ใช้ปุ๋ยเคมีเสริมตามชนิดและความต้องการของพืช

4.น้ำหมักมูลค้างคาว

-มูลค้างคาวนั้นเป็นมูลสัตว์ที่มีธาตุอาหารพืชสูงกว่ามูลสัตว์อื่นๆ เพราะค้างคาวจับกินแมลงเป็นอาหาร อุดมไปด้วยธาตุอาหาร หลัก รองและเสริม

ที่โดดเด่นและมีสูงมาก คือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก แมงกานีส ทองแดง และโบรอน ตามตารางวิเคราะห์ธาตุที่วิเคราะห์โดย กองเกษตรเคมี กรมวิชาการเกษตร มีนาคม 2542

5.ผสมฮิวมิคผง

-ฮิวมิค จะช่วยทำให้ดินให้อุ้มนํ้าและระบายอากาศได้ดี ช่วยทำให้ดินที่มีแรงยึดเหนี่ยวสูงทำให้ระบบรากของพืชที่จะดูดซึมแร่ธาตุอาหารได้ยาก ฮิวมิค จะไปทำ ลายแรงยึดเหนี่ยว ซึ่งก็จะทำ ให้ชั้นดินมีความโปร่งขึ้น ส่งผลให้นํ้าและอากาศหมุนเวียนถ่ายเทได้ดีขึ้นนอกจากนั้น ฮิวมิค สามารถ ป้องกันไม่ให้นํ้าระเหยไปจากดิน ซึ่งเป็นผลดีสำหรับดินที่มีความเป็นดินเหนียวตํ่า ดินทราย และดินในพื้นที่แห้งแล้ง ที่ไม่สามารถจะดูดซับนํ้าไว้ได้เมื่อดินที่มีลักษณะดังกล่าวมีนํ้าผ่านเข้ามา นํ้าก็จะระเหยออกจากดินน้อยลงหรือสามารถอุ้มนํ้าได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพในการดูดซับธาตุอาหารและปลดปล่อยธาตุอาหารเหล่านั้นให้แก่พืช อย่างช้าๆเพื่อให้พืชได้นำมาใช้ประโยชน์ในด้านการเจริญเติบโต การออกดอกออกผล และฮิวมิค ยังสามารถดูดประจุบวกของธาตุอาหารเสริมและจะปลดปล่อยธาตุอาหารเมื่อ ฮิวมิค อยู่ใกล้บริเวณรากของพืช ธาตุอาหารเสริมเหล่านั้นก็จะถูกปล่อยออกมาจาก ฮิวมิค เข้าไปสู่ระบบรากเพื่อที่จะได้ลำเลียงไปยังส่วนต่างๆของพืชต่อไป

-ประโยชน์ ฮิวมิค

-มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุสูง ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารต่างๆได้ดี

-ช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช อาหารรองค่อนข้างครบถ้วน

-ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ในดินที่เป็นประโยชน์กับพืชให้มากขึ้น

-ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช

-ช่วยป้องกันการชะล้างหน้าดิน ทำให้ดินร่วนซุย ไม่อัดตัวแน่นเกินไป

6.ผสมเชื้อราไตรโคเดอร์มา

-เชื้อราไตรโคเดอร์มา เป็นเชื้อราชั้นสูงที่ดำรงชีวิตอยู่ในดิน อาศัยเศษซากพืช ซากสัตว์และอินทรียวัตถุเป็นแหล่งอาหาร เจริญได้รวดเร็วบนอาหารเลี้ยงเชื้อราหลายชนิด สร้างเส้นใยสีขาวและผลิตส่วนขยายพันธุ์ที่ เรียกว่า โคนิเดีย หรือ สปอร์ จำนวนมากรวมเป็นกลุ่มหนาแน่นจนเห็นเป็นสีเขียว เชื้อราไตรโคเดอร์มาเป็นศัตรู (ปฏิปักษ์) ต่อเชื้อราสาเหตุโรคพืชหลายชนิดโดยวิธีการเบียดเบียน หรือเป็นปรสิต และแข่งขันหรือแย่งใช้อาหารที่เชื้อโรคต้องการ นอกจากนี้เชื้อราไตรโคเดอร์มา ยังสามารถผลิตปฏิชีวนสาร และสารพิษ ตลอดจนน้ำย่อยหรือเอนไซม์สำหรับช่วยละลายผนังเส้นใยของเชื้อโรคพืช คุณสมบัติพิเศษของเชื้อราไตรโคเดอร์มาคือ สามารถช่วยละลายแร่ธาตุให้อยู่ในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืช จึงช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและชักนำให้ต้นพืชมีความต้านทานต่อเชื้อโรคพืชทั้งเชื้อราและแบคทีเรียสาเหตุโรค มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมโรคของพืชเศรษฐกิจต่างๆทั้งพืชไร่ ไม้ผล พืชผัก และไม้ดอกไม้ประดับหลายชนิดได้ในสภาพแปลงเกษตรกร ทั้งโรคที่เกิดบนส่วนของพืชที่อยู่ใต้ดิน เช่น โรคเมล็ดเน่า โรคเน่าระดับดิน (โรคกล้ายุบ) รากเน่า หัวหรือแง่งเน่า และโคนเน่า เป็นต้น โรคที่เกิดบนส่วนของพืชที่อยู่เหนือดินไม่ว่าจะเป็นส่วนของ กิ่ง ผล ใบ หรือดอก เช่น โรคลำต้นไหม้ของหน่อไม้ฝรั่ง โรคแคงเกอร์ของมะนาว โรคราดำของมะเขือเทศ โรคใบปื้นเหลืองและโรคดอกสนิมของกล้วยไม้ โรคแอนแทรคโนสของมะม่วงและพริกทั้งก่อนและหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต นอกจากนี้ยังสามารถใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาควบคุมโรครากเน่าของพืชผักสลัดและผักกินใบต่างๆที่ปลูกในสารละลายธาตุอาหาร (ระบบไฮโดรโพนิกส์) และจากผลการวิจัยล่าสุดพบว่าการแช่เมล็ดข้าวเปลือกก่อนใช้หว่านลงในนาข้าว ช่วยลดการเกิดโรคเมล็ดด่าง เมล็ดลีบ ของข้าวที่เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อราหลายชนิด ตลอดจนช่วยเพิ่มความสมบูรณ์และน้ำหนักเมล็ด และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้ด้วย

7.E.C (Electrical Conductivity , E.C)

-ค่า EC เหมาะสมต่อการปลูกพืช การปลูกพืชในสารละลายที่มี ค่า EC สูง กับ การปลูกพืชในสารละลายที่มี ค่า EC ต่ำ มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ที่ทำให้ผลผลิตที่สูงต่ำแตกต่างกัน ซึ่งค่าจะอยู่ในช่วงระหว่าง 1 - 4 mS/cm

8.ผสมโดโลไมท์ 25%

-ผลิตภัณฑ์แร่ธาตุธรรมชาติคุณภาพสูง ที่ได้จากตะกอนของแคลเซียมและแมกนีเซียมทับถมกันมีส่วนประกอบทางเคมีในรูปแคลเซียม แมกนีเซียมคาร์บอเนต (CaMg (CO3)2) จึงมีลักษณะเป็นผงฝุ่น ใช้เพื่อปรับสภาพดิน บำรุงดินให้ร่วนซุย เนื่องจากโดโลไมท์ เป็นแร่ธาตุที่มีลักษณะพรุน หรือให้ธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรองที่เป็นประโยชน์แก่ดินและพืช

-ใช้ปรับสภาพดิน แก้ปัญหาดินเป็นกรด ดินเปรี้ยว ดินเสื่อมโทรม และดินที่ใช้ทำการเกษตรเป็นเวลานานให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืชพร้อมทั้งเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้มีคุณภาพที่ดีเพิ่มภูมิต้านทาน เสริมสร้างต้นพืชให้แข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อม โรค และแมลงศัตรูพืช

9.ใส่เครื่องพ่นได้ไม่ติดเครื่อง

10.ความชื้น 20.0

11.ละลายง่าย

12.ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีแมลงวันมารบกวน

13.ใช้ได้กับพืชทุกชนิด

 

ข้อดีของการใช้มูลวัวเกษตรสามช่า

1.ลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช โรคและแมลงศัตรูพืช ส่งผลดีต่อสุภาพอีกด้วย

2.ลดต้นทุนการจัดการแปลงเกษตร

3.ลดความเป็นกรดในดิน

4.เพิ่มจุลินทรีย์ในดิน

5.ไม่อันตรายต่อรากพืช ลดความเสี่ยงในการลงทุน

6.อุดมไปด้วยธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืช

7.ดินร่วนทรุยเพิ่มออกซิเจนในดิน

8.ดินอุ้มน้ำได้ดี พืชยืนระยะข้ามแล้งนานขึ้น

9.ลดต้นทุนในการใช้ปุ๋ยเคมีธาตุหลัก

-กำลังการผลิต 10 ตัน/วัน ผลิตที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

-มีบริการขนส่งถึงที่ เก็บเงินปลายทาง

-สินค้ามีใบตรวจวิเคราะห์ธาตุ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน



ประโยชน์

-ลดการใช้ยากำจัดวัชพืช เพราะขี้วัวเราสะอาดไม่มีเมล็ดวัชพืช

-ไม่เป็นอันตรายต่อรากพืช เพราะฟาร์มเราไม่มีใช้โซดาไฟล้างคอกวัว

-เป็นอินทรียวัตถุและหินแร่แท้ 100% ไม่มีดินหรือทรายมาผสมเพื่อลดต้นทุน

-ป้องกันปัญหาโรครากเน่าจากเชื้อราต่างๆ เพราะเราผสมเชื้อไตรโคเดอร์มา

-แคลเซียมสูงถึง 22% เพราะเราใส่แร่โดโลไมท์ผสมเข้าไป 25%

-ธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์พร้อมให้พืชดูดกินจากการหมักด้วย EM+น้ำนมวัว+มูลค้างคาว+กรดอะมิโนฮิวมิค เป็นเวลา 2 เดือน

-แก้ปัญหาดินแข็ง ทำให้ดินร่วนทรุย ดูดซับน้ำและธาตุอาหารไว้ได้นาน

-ลดอาการใบเหลือง ใบด่าง ใบหงิกงอ

-แก้ปัญหาดินเป็นด่างและดินขาดอินทรียวัตถุ

-เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ให้แก่ดิน

ข้อเสียของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ไม่มีคุณภาพ

-การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ไม่ได้คุณภาพอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อพืชได้ เช่น การใช้ปุ๋ยคอกที่ไม่ผ่านการย่อยสลายทำให้เกิด กรด แก๊สและความร้อนขณะย่อยสลายภายในดินจะเป็นอันตรายต่อรากพืช และปุ๋ยอินทรีย์ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนหรือจุลินทรีย์ที่ใช้กำจัดโรคพืช อาจมีโรคและแมลงศัตรูพืชติดมาด้วย อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ในภายหลัง

ความสำคัญของ ปุ๋ยอินทรีย์

แม้ว่าเทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยในปัจจุบันจะทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้น แต่ปุ๋ยอินทรีย์ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในการบำรุงพืชและพัฒนาโครงสร้างดินอยู่ดี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ยังไม่มีปุ๋ยชนิดไหนทดแทนได้ ดังนี้

1.ปุ๋ยอินทรีย์มีธาตุอาหารครบถ้วน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะวัตถุดิบตั้งต้นของปุ๋ยอินทรีย์นั้นมาจากธรรมชาติ จึงมีทั้งธาตุหลักและธาตุรองอย่างสมดุล แม้แต่ธาตุอาหารเสริมที่พืชต้องการเพียงเล็กน้อยก็พบได้ในปุ๋ยชนิดนี้ด้วย วิธีการให้ปล่อยสารอาหารลงสู่ดินก็เป็นไปอย่างช้าๆ แต่อาศัยความต่อเนื่องยาวนาน พืชจึงดูดซึมไปใช้งานได้ค่อนข้างมาก

2.ปุ๋ยอินทรีย์มีส่วนช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างดิน โดยการเพิ่มอินทรียวัตถุลงในดิน แล้วทำให้อนุภาคของดินนั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จากเม็ดดินอัดแน่นก็จะมีความโปร่งและร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดี ทำให้ระบบรากของพืชเจริญเติบโตได้เร็วพร้อมกับทำหน้าที่ได้ดูดซึมอาหารได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น นอกจากนี้ปุ๋ยอินทรีย์ยังมีคุณสมบัติในการช่วยควบคุมความเป็นกรด-ด่างในดินอีกด้วย

3.จากเอกสารเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ของกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า ปุ๋ยอินทรีย์ช่วยส่งเสริมการเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดดี ในวงจรการดูดซึมธาตุอาหารของพืชจะต้องมีจุลินทรีย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ เพราะพวกมันทำหน้าที่ย่อยสลายและเปลี่ยนรูปธาตุอาหารจนกลายสิ่งที่พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้ ส่วนประกอบในปุ๋ยอินทรีย์จะช่วยให้จุลินทรีย์เหล่านี้เพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการเพาะปลูกในระยะยาว

4.ปุ๋ยอินทรีย์ช่วยเสริมประสิทธิภาพของปุ๋ยประเภทอื่นได้ดี กรณีที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์จะทำหน้าที่เหมือนผู้ปูทางที่เตรียมองค์ประกอบพื้นฐานให้พร้อม และสร้างสภาพแวดล้อมในดินให้เอื้อต่อการดูดซับสารอาหาร เมื่อใส่ปุ๋ยเคมีเพิ่มเข้าไป ทั้งดินและพืชจึงใช้ประโยชน์จากธาตุอาหารได้อย่างเต็มที่

5.ปุ๋ยอินทรีย์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่เรื่องคุณสมบัติที่เป็นธรรมชาติเท่านั้น แต่การนำเศษซากจากการทำเกษตรกรรมมาใช้ ก็เท่ากับลดปริมาณขยะลงไปได้มาก อีกทั้งยังช่วยให้เกษตรกรลดค่าใช้จ่ายบางส่วนลงไปได้อีกด้วย

#ขี้วัวอัดเม็ด#ไม่มีโซดาไฟ#หมักด้วยEMน้ำนมวัว#ผสมฮิวมิค#ผสมโดโลไมท์#ผสมไตรโคเดอร์มา#ขี้วัวสะอาด#ไม่มีเมล็ดหญ้า#รับOEM


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy